ปรึกษาภาวะมีบุตรยาก ที่ไหนดี
คลินิกปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ผ่านการรับรอง ISO
ทุกวันนี้ จำนวนผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก กำลังมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ที่ทำให้คุณแม่หลายคน เกิดความกังวล และเกิดความเครียดสะสม ที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการมีลูก แต่ไม่ว่าจะทำทุกวิถีทางแค่ไหน ลูกก็ไม่ติดสักที ทำให้การเข้ารับการปรึกษาที่โรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยาก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณแม่หลาย ๆ คน ซึ่งการเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกอย่างถี่ถ้วน ต้องเลือกสถานที่ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ที่จะตอบโจทย์การรักษาในหลาย ๆ รูปแบบ ในวันนี้ เราจะพาคุณแม่มาเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากให้มากขึ้น พร้อมแนะนำคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่มีคุณภาพ และผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ไปดูกันเลย
ภาวะมีบุตรยากคืออะไร เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง
ภาวะมีบุตรยาก (Infertility) คือภาวะที่เกิดขึ้นจากการที่ระหว่างคู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอ และไม่มีการคุมกำเนิดติดต่อกันประมาณ 1 ปี แต่ยังไม่เกิดกระบวนการตั้งครรภ์ขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ภาวะมีบุตรยาก มักเกิดกับผู้หญิงที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสภาพความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อการมีบุตร มีระยะเวลายาวนานขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ หลาย ๆ ครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะมีบุตรในช่วงวัยที่เหมาะสมนั่นเอง ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยาก มีปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- อายุของฝ่ายหญิง หากอายุของฝ่ายหญิง มากกว่า 35 ปีขึ้นไป จะทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ง่าย เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่รังไข่มีประสิทธิภาพในการผลิตไข่ได้น้อยลงมากแล้ว แต่ในบางราย ก็อาจเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
- ความสมบูรณ์ของร่างกายของฝ่ายหญิง ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ส่งผลต่อร่างกายมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สภาพแวดล้อมมีมลภาวะที่เป็นพิษเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ส่งผลให้ร่างกายของฝ่ายหญิงมีความแข็งแรงน้อยลง หรือเกิดภาวะรังไข่เสื่อมจากการรับสารพิษหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้
- คุณภาพของเชื้ออสุจิ นอกจากปัญหาทางด้านสภาพร่างกายจากทางฝ่ายหญิงแล้ว คุณภาพอสุจิของฝ่ายชายก็อาจมีปัญหาได้เช่นกัน ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกช่วงวัย โดยมักเกิดจากปัจจัยด้านความเครียดสะสม การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ก็ส่งผลให้เชื้ออสุจิไม่มีคุณภาพเช่นกัน ซึ่งเมื่อเชื้ออสุจิไม่แข็งแรงมากพอ ก็จะไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิงได้
สัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะมีบุตรยาก ในเพศชายและเพศหญิง มีอะไรบ้าง
เมื่อเราทราบถึงปัจจัยต่าง ๆ ในหัวข้อก่อนหน้านี้แล้ว เราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่า เรามีปัญหาการมีบุตรยากหรือไม่ มีสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกได้ว่า เรามีภาวะมีบุตรยาก ที่ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางให้เร็วที่สุด เพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติตามอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อรักษาภาวะการมีบุตรยาก และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น โดยสัญญาณที่บ่งบอกในฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย มีดังนี้
สัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะมีบุตรยาก ในฝ่ายหญิง
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่ปกติ
- มีอาการปวดท้องในขณะที่มีเพศสัมพันธ์
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือมีอาการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- มีประวัติผ่าตัดบริเวณอุ้งเชิงกรานมาก่อน
- มีประวัติการแท้งบุตรมาก่อน
- มีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน
สัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะมีบุตรยาก ในฝ่ายชาย
- มีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศ เช่น ไม่แข็งตัว หรือมีปัญหาด้านการหลั่งน้ำอสุจิ
- มีประวัติติดเชื้ออัณฑะอักเสบ
- มีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน
เทคโนโลยีในการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง
ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีเพื่อการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับการยอมรับ และได้รับความนิยมมากมาย ซึ่งในโรงพยาบาลและคลินิกแต่ละที่ อาจมีหรือไม่มีในบางบริการ จึงทำให้การเลือกเข้ารับการปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากในโรงพยาบาลหรือคลินิกเฉพาะทาง ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะแต่ละคนก็มีสภาพร่างกายที่เหมาะสมกับวิธีในการรักษาแต่ละรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน โดยเทคโนโลยีรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
- เทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้ว มี 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
- IVF (In-Vito Fertilization) เทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้ว โดยการคัดเลือกไข่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของฝ่ายหญิง และคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดของฝ่ายชาย มาผสมกันเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ แล้วนำไข่ที่ผ่านการปฏิสนธิเรียบร้อย กลับเข้าไปที่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงอีกครั้ง เพื่อให้เกิดกระบวนการตั้งครรภ์
- ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นเทคโนโลยีในการทำเด็กหลอดแก้วเช่นกัน แต่จะเป็นการคัดเอาอสุจิที่แข็งแรงที่สุด นำมาใช้วิธีส่องกล้องจุลทรรศน์ และใช้เข็มขนาดเล็กฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ เพื่อทำการผสมกันโดยตรง หลังจากนั้นจึงนำไข่ที่เกิดการผสมแล้วไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการแทนการที่จะส่งกลับเข้าไปที่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงทันที แต่จะเป็นการเลี้ยงจนกว่าตัวอ่อนจะเกิดการพัฒนาในระยะที่มีความเหมาะสม แล้วค่อยนำกลับไปไว้ในโพรงมดลูก เพื่อการเจริญเติบโตต่อไปภายในครรภ์
- IUI (Intra Uterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก
เป็นวิธีการรักษาด้วยการฉีดน้ำเชื้ออสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้วว่ามีความแข็งแรงที่สุด เข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรงในช่วงเวลาไข่ตกของฝ่ายหญิง โดยใช้ท่อพลาสติกขนาดเล็กสอดเข้าไปผ่านปากมดลูกเป็นตัวกลางในการฉีดอสุจิเข้าไป เพื่อให้อสุจิว่ายเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิงเอง เป็นการเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์มากกว่าวิธีปฏิสนธิแบบธรรมชาติ- การเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ ด้วยวิธี PESA/TESE
เป็นวิธีการช่วยเหลือและรักษาฝ่ายชายที่มีปัญหาเรื่องของน้ำเชื้อ อาทิ ไม่มีตัวอสุจิ เป็นหมัน หรือมีท่อนำอสุจิอุดตันทำให้ไม่มีตัวอสุจิออกมาในน้ำหลั่ง มีการผลิตอสุจิที่น้อยมาก หรือมีคุณภาพต่ำมาก จนไม่สามารถมีบุตรได้
โดยจะใช้วิธีนำเข็มแทงผ่านผิวหนังบริเวณอัณฑะเพื่อดูดเอาเชื้ออสุจิออกมา หรือตัดชิ้นเนื้ออัณฑะขนาดเล็ก ๆ แล้วใช้กล้องจุลทรรศน์แยกเอาเชื้ออสุจิที่อยู่ในอัณฑะออกมาแทน และนำเข้าสู่กระบวนการทำ ICSI ต่อไป - การฝากไข่ แช่แข็งไข่ (Egg Freezing)
เป็นหนึ่งในวิธีการเตรียมตัวเพื่อการมีบุตร โดยการรักษาคุณภาพเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง เพื่อให้สามารถเก็บไข่ที่มีคุณภาพเพื่อเตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคตข้างหน้า วิธีนี้จะเป็นการที่แพทย์ทำการดูดเอาไข่สุขภาพดีของผู้หญิงในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์มากที่สุดออกมาจากรังไข่ และนำไปแช่แข็งเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม และนำไข่ออกมาเพื่อปฏิสนธิกับอสุจิของฝ่ายชาย เมื่อถึงเวลาที่ต้องการตั้งครรภ์
- การเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ ด้วยวิธี PESA/TESE
นอกจากวิธีในการรักษาข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีในการรักษาภาวะมีบุตรยากรูปแบบอื่น ๆ อีกเช่นกัน ซึ่งเหมาะสมไปตามกับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละคน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
รักษาภาวะมีบุตรยากที่ Prime Fertility Center ดีอย่างไร ทำไมทุกคนถึงไว้วางใจและเลือกใช้บริการ
Prime Fertility Center เป็นคลินิกเฉพาะทางที่ให้การรักษาด้านภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ เลือกใช้เทคโนโลยีรักษาภาวะมีบุตรยากที่มีความทันสมัยที่สุด ผ่านการรับรองคุณภาพในมาตรฐานระดับสากลอย่าง JCI (Joint Commission International) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 15189 และ ISO 15190 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการรับรองความสามารถ และความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในระดับสากล ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องมือที่มีมาตรฐานเหล่านี้ และกระบวนการรักษาอย่างเป็นขั้นตอนจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สามารถมั่นใจได้เลยว่า การรักษาจะสามารถเห็นผลได้ดังที่ตั้งความหวังเอาไว้ เพิ่มความสบายใจ แบ่งเบาภาระทางจิตใจของผู้เข้ารับบริการได้ดี ไม่ว่าคู่นั้นจะอายุมากหรือน้อยก็ตาม
Prime Fertility Center ไม่ได้เพียงแค่ให้การรักษาภาวะมีบุตรยากเพียงเท่านั้น สิ่งที่ Prime Fertility Center มุ่งหวัง และมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง คือการให้บริการลูกค้าด้วยความใส่ใจ พร้อมให้คำปรึกษา ดูแล และใส่ใจทุกความรู้สึกของคุณ เหมือนกับเป็นคนในครอบครัว เพราะเราเข้าใจถึงความรู้สึก ความกดดัน ความเครียดของผู้เข้ารับบริการที่ไม่สามารถมีบุตรได้สำเร็จเป็นอย่างดี ทางคลินิกจึงมีความตั้งใจที่จะมอบความอบอุ่น และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้ารับบริการอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยความมุ่งมั่นและความใส่ใจจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักเพาะเลี้ยงตัวอ่อน และทีมงานมากประสบการณ์ในการดูแลและให้คำปรึกษาแบบครบวงจร
สนใจเข้ารับการปรึกษาภาวะมีบุตรยาก
ติดต่อ Prime Fertility Center
โทร : 062-648-6688 / 062-648-8866 / 02-029-1418–9
Line : http://line.me/ti/p/~@primefertility
Facebook : https://www.facebook.com/primefertilitycenter
E-mail : [email protected]
เวลาทำการ
วันจันทร์ – วันพุธ , วันศุกร์และวันเสาร์
เวลา 08.00 – 16:00 น.
หยุดวันพฤหัสบดี วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์