Andropause หรือ อาการผู้ชายวัยทอง เป็นคำที่ใช้อธิบายระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ลดลง

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในเพศชายที่เป็นผลมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และการผลิตฮอร์โมนจะเกิดขึ้นช้าลง และหากมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่ต่ำมาก ทางการแพทย์อาจใช้คำว่า Late onset hypogonadism

เมื่อผู้ชายอายุเกิน 30 ปี ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะลดลงอย่างช้าๆ ประมาณ 1 % ในแต่ละปี ซึ่งหมายความว่าอัณฑะจะไม่หยุดผลิตฮอร์โมนเพศชายอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคเบาหวานและปัจจัยอื่นๆ ที่กำลังจะกล่าวถึง อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการทำงานของอัณฑะระหว่างอายุ 45 ถึง 50 ปี

อาการของผู้ชายวัยทอง

• ไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น
• สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดต่ำลง
• ผิวหนังบางลง
• ผิวแห้งกร้าน
• อารมณ์แปรปรวนและหงุดหงิดง่าย

อาการดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และผู้ชายที่เข้าสู่วัยนี้จะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างเพิ่มขึ้น เช่น โรคกระดูกพรุน และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด

การวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันภาวะผู้ชายวัยทอง

Andropause มักได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะ (urologist) หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์ของเพศชาย (andrologist) โดยการตรวจร่างกายและตรวจหาอาการที่เกี่ยวข้อง ตามด้วยการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของผู้ป่วย

อาการของผู้ชายวัยทองสามารถรักษาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วน ลดอาหารประเภทน้ำตาลและไขมันให้น้อยที่สุด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้การรักษาทางยาร่วมด้วย คือการใช้ยาฮอร์โมนเพศชายเสริมมีตั้งแต่ชนิดกิน ชนิดฉีดและชนิดเจลทาผิว ซึ่งงผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนการใช้ยา เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้หากใช้ไม่ถูกต้อง