สำหรับเทศกาลกินเจที่มาถึงนี้ คนที่ต้องการกินเจในช่วงที่จะเตรียมตัวกระตุ้นไข่ ใส่ตัวอ่อนต่างๆ จะมีผลจากการกินเจหรือไม่นั้น? ต้องบอกว่ามีผลบ้างครับ

เพราะว่าการกินเจตามหลักปฏิบัติทั่วไปก็จะให้งดการรับประทานสัวต์ทุกชนิดและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์น้อย สัตว์ทะเล หรือไข่ นม น้ำมัน เนยต่างๆ จากสัตว์

ซึ่งผลิตภัณฑ์จากสัตว์ก็จะเป็นแหล่งที่มาของโปรตีน โดยโปรตีนจะให้ในเรื่องของกรดอะมิโนต่างๆ ซึ่งบางชนิดไม่มีในพืช ถ้างดตรงนี้ไปเลยร่างกายก็จะสังเคราะห์เองไม่ได้และขาดสารอาหารบางอย่างไป ก็จะส่งผลต่อสุขภาพบ้างไม่มากก็น้อย

ทีนี้สิ่งที่ทดแทนการทานเจได้ก็คือกลุ่มโปรตีนจากพืชต่างๆ เช่น ถั่วต่างๆ สาหร่าย เห็ด เป็นต้น ก็สามารถทดแทนได้แต่ไม่ทั้งหมดอาจจะต้องทานในปริมาณที่สูงครับ อย่างไรก็ดีด้วยข้อมูลในปัจจุบันยังไม่ได้มีการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือในทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าการกินเจจะทำให้คุณภาพไข่ลดลง

แต่เนื่องจากการกินเจจะใช้เวลาราวๆ 10 วัน ถ้าเป็นได้ก็อยากจะให้เลื่อนไปก่อน เพื่อให้ไม่ติดขัดในแง่ของการบำรุงสุขภาพร่างกาย ในทางการแพทย์ทั่วไปก็อยากจะให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลากหลาย ได้สารอาหารที่ครบถ้วนทั้งจากพืชและสัตว์ โดยเฉพาะจากไข่ นม เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมีประโยชน์

ถ้าเกิดได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนในแง่ของคุณภาพไข่หรือน้ำเชื้อในช่วงที่ทานเจก็อาจจะลดลงได้ จากการที่ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ อันนี้ก็เป็นประเด็นที่ให้ขบคิดกันครับ

อีกทั้งอาหารประเภทเต้าหู้ น้ำถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร ที่ส่วนใหญ่ทำจากถั่วนั้น ซึ่งถั่วโดยเฉพาะถั่วเหลืองจะมีสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า _ไ_ฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ถ้าหากทานมากเกินไปก็จะสามารถกระตุ้นอวัยวะที่สามารถตอบสนองต่อฮอรโมนเพศหญิงได้ เช่น โพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ ขุ่น มีน้ำได้ ถ้าเกิดอยู่ในช่วงเตรียมใส่ตัวอ่อนก็อาจจะมีผลได้เหมือนกัน ในกรณีที่คนไข้ไวต่อฮอร์โมน

เพราะฉะนั้นในแง่ของการกินเจ การทานถั่วมากเกินไป อาจส่งผลให้ในช่วงการย้ายตัวอ่อนและการฝังตัวของตัวอ่อนมีปัญหาได้ครับ

แต่ถ้าต้องการกินเจก็สามารถกินได้! แล้วค่อยรอกระตุ้นไข่ เตรียมโพรงมดลูกในรอบปกติที่สามารถทานอาหารได้เต็มที่ครับ

ทั้งนี้ก็ควรจะปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลรักษาอยู่ว่าสภาพร่างกายของคนไข้ช่วงนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงแค่ไหน ที่จะทำการรักษาในช่วงที่คนไข้จะกินเจนั่นเองครับ

–