ขาดวิตามิน D อาจส่งผลให้มีลูกยากได้

ในผู้หญิง วิตามินดีมีความสำคัญต่อฮอร์โมนเพศหญิง ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของไข่ อีกทั้งยังพบว่าคนที่มีระดับวิตามินดีปกติ มีโอกาสประสบความสำเร็จในการรักษามีบุตรยากมากกว่าคนที่มีวิตามินต่ำ

นอกจากนี้ วิตามินดียังมีความสำคัญในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากช่วยในการพัฒนาเติบโตของทารกในครรภ์ หากในขณะตั้งครรภ์มีภาวะขาดวิตามินดี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ ดังนั้นในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ

ในผู้ชาย วิตามินดีก็มีความสำคัญต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายเช่นกัน พบว่าผู้ชายที่มีวิตามินดีต่ำ จะส่งผลต่อคุณภาพของสเปิร์ม ทั้งรูปร่าง จำนวน และการเคลื่อนที่แย่ลง ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ และพบว่าการให้วิตามินเสริมในชายที่อสุจิมีคุณภาพต่ำ ช่วยให้คุณภาพของสเปิร์มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ระดับวิตามินดีในเลือด
เราสามารถวินิจฉัยได้จากการวัดระดับค่า 25-hydroxy-vitamin D เพื่อแสดงระดับวิตามินดีในเลือด แบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้

• ระดับปกติ (Normal) มากกว่า 30 (ng/mL)
• ภาวะพร่องวิตามินดี (Vitamin D insufficiency) 20 – 30 (ng/mL)
• ภาวะขาดวิตามินดี (Vitamin D deficiency) น้อยกว่า 20 (ng/mL)

ความจำเป็นในการเสริมวิตามินดี จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งอาหารที่กิน การดำรงชีวิต ยาที่กินทั้งอดีตและปัจจุบัน และปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคน อย่างไรก็ตามการทานวิตามินดี หรืออาหารเสริมอื่น ๆ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิดอาจขัดขวางการทำงานของยาที่ช่วยภาวะเจริญพันธุ์ได้